สวัสดีเพื่อนๆทุกคน
วันนี้ก็มีโอกาสได้มาทักทายเพื่อๆกันทาง Blogger อีกครั้งนึงนะครับ
สำหรับวันนี้ก็จะมีเรื่องงานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ประจำปี 2013 มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ
สำหรับการฉลองวัดเซนต์หลุยส์ในปี 2013 นี้ ก็เป็นการฉลองวัดหลังปัจจุบันครบ 56 ปี เข้าสู่ปีที่ 57 แล้ว ซึ่งวัดนี้ถือได้ว่าเป็นวัดเดินทางมาสะดวกสุดๆแล้วละครับ เพราะบริเวณหน้าวัดมีถนนสาทรใต้ ซึ่งในวันธรรมดาถนนเส้นนี้มีรถวิ่งพลุกพล่านมากมายเลย และถึงแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม หลายครั้งถนนเส้นนี้ก็ไม่เคยเงียบเหงาเลย ขณะเดียวกัน ก็มีรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่านด้วย โดยสัตบุรุษท่านใดที่ต้องการมาวัดโดยรถไฟฟ้านั้นสามารถลงได้ที่สถานีสุรศักดิ์และเดินย้อนมาอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้วละครับ
ในวันฉลองวัดเซนต์หลุยส์ (25 ส.ค.2013) ทางวัดก็ได้รับเกียรติจากพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเ้วียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช มาเป็นประธานในพิธีมิสซาเวลา 10.00 น. ซึ่งพิธีมิสซาในครั้งนี้ ก็เป็นไปด้วยความสง่างามอย่างสมเกียรติมากๆ เพราะทางวัดได้จัดให้มีคณะนักขับร้อง ร้องเพลงในพิธีมิสซาได้อย่างดี และที่น่าประทับใจคือ ได้มีการนำเพลงภาษาลาตินมาร้องระหว่างพิธีมิสซาด้วย ไม่ว่าจะเป็น Kyrie, Gloria, Sanctus, Agnus Dei เป็นต้น ทำให้พิธีมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นไปอีก
หลังจากจบพิธีมิสซา ก็เป็นช่วงขบวนแห่เทิดเกียรติท่านนักบุญหลุยส์ เราก็ได้สังเกตุเห็นว่า ในงานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ปีนี้ มีสัตบุรุษทั้งจากวัดเซนต์หลุยส์เองและจากวัดต่างๆใกล้เคียงได้มาร่วมงานฉลองวัดในครั้งนี้กันเป็นจำนวนมาก จนเราคาดว่า น่าจะประมาณ 1 - 2 พันคนได้ด้วยซ้ำไปครับ
ซึ่งการฉลองวัดในปีนี้ ก็รู้สึกดีและมีความสุขกับการได้มาร่วมพิธีมิสซาฉลองวัดเซนต์หลุยส์จริงๆ ถึงแม้ตนเองจะไม่ได้เป็นสัตบุรุษของวัดเซนต์หลุยส์ก็ตามที แต่ก็ประทับใจในสัตบุรุษและชุมชนแห่งความเชื่อของวัดนี้ ที่ยืนหยัดอยู่ได้จนถึง 57 ปี และก็หวังว่า สัตบุรุษที่นี่ก็จะได้รับพระพรและพระหรรษทาน จากพระเป็นเจ้าต่อไปอย่างอุดมสมบูรณ์ครับ
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556
บทความดีๆ เรื่อง เมื่อเราเลือกเอามิสซา
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ก็ได้มีโอกาสมาอัพบล็อกอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานเสียนาน จนเกือบจะลืมไปแล้วว่า เราก็มีบล็อกนี้อยู่น่ะครับ ยังไงวันนี้ก็ขอนำบทความดีๆ จาก ค.พ.พงษ์เทพ ประมวลพร้อม ที่เขียนไว้ในคอลัมน์ชื่อ แรงบันดาลใจในปีแห่งความเชื่อ ที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์อุดมสารรายสัปดาห์มาแบ่งปันกันครับ โดยหัวข้อที่จะนำมาแบ่งปันนี้ มีชื่อว่า "เมื่อเราเลือกเอามิสซา" ยังไงก็เชิญไปอ่านกันได้เลยนะครับ
เมื่อเราเลือกเอามิสซา
พิธีมิสซา
เป็นงานประเสริฐที่สุดที่คุณพ่อสามารถจะประกอบคารวกิจถวายแด่พระเป็นเจ้า
สัตบุรุษไม่ต้องการสิ่งใดจากคุณพ่อมากเท่ากับบูชามิสซาที่คุณพ่อถวายร่วมกับพวกเขาเพราะพวกเขาไม่อาจเป็นศาสนบริกรบนพระแท่นได้ พวกเขาจึงต้องพึ่งคุณพ่อในการถวายมิสซาร่วมกัน
เมื่อคุณพ่องดมิสซาประจำวันบ่อยๆ
คุณพ่อก็ทำร้ายจิตใจของสัตบุรุษที่เขามีความหวังประจำวันตอนเช้าที่จะได้รับความชุ่มชื่นราดรดหัวใจจากมิสซา บางทีเขามีความหวังเหลืออยู่เพียงเท่านั้น สัตบุรุษเพียงคนเดียวที่ผิดหวังเพราะวันนี้ไม่มีมิสซาอย่างไม่สมควรก็มากเกินไปแล้ว แต่วัดของเราเช้าๆมีมากกว่า 20 คน
ที่มาร่วมมิสซา
บางทีจิตวิทยาผิดๆที่พยายามงดมิสซาเพื่อให้สัตบุรุษคุ้นเคยว่า ไม่ต้องร่วมมิสซาไม่เป็นไรอาจได้ผล
แต่นั่นก็เพราะเขาต้องจำใจยอมรับเนื่องเพราะโต้แย้งไม่ได้ เราไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างความคุ้นเคยเข้าทางผีปีศาจให้แก่วัดของเรา
พระเยซูเจ้าทรงเมตตาประทานหนทางให้เราได้รับการสัมผัสดวงใจจากพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ในพิธีมิสซา ทางพระวาจาและศีลมหาสนิท แต่เมื่อเรางดมิสซา เราก็เป็นผู้ปิดหนทางของพระเยซูเจ้า มีสัตบุรุษเป็นจำนวนมากที่เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยมิสซาประจำวัน
คุณพ่อผู้อ่อนประสบการณ์เท่านั้นที่ไม่เข้าใจในขุมทรัพย์อันประเสริฐนี้
และไม่เข้าใจว่าที่วัดดำรงอยู่ได้ก็เพราะทุกเช้ามีสัตบุรุษเหล่านี้นี่เองที่เดินทางมาวัดร่วมถวายมิสซาขององค์พระเยซูเจ้ากับคุณพ่ออยู่เสมอ
เราจึงต้องระวังเหตุผลที่จะงดมิสซา
ว่าเป็นเหตุผลที่เราคนเดียวต้องการเพราะเราอาจลืมตระหนักว่าเราอยู่ได้ก็เพราะมิสซา จะมีงานใดสำคัญพอให้เราต้องงดมิสซา เรางดมิสซาบ่อยๆเท่ากับเราไม่ให้ความสำคัญแก่พระเจ้าและสัตบุรุษ
มีเราคนเดียวและสิ่งที่เราจะต้องไปทำสำคัญกว่าชีวิตพวกเขาที่ตั้งใจมาวัดร่วมมิสซา
คนเหล่านี้มิใช่หรือที่ทำให้มิสซาเช้าวัดของเรามีชีวิตชีวา
ลูกขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานสัตบุรุษที่มีใจศรัทธามากมายมาร่วมมิสซากับลูกทุกเช้า พวกเขาขอบคุณลูกที่ถวายมิสซาให้แก่พวกเขา แต่หารู้ไม่ว่า ลูกติดหนี้บุญคุณพวกเขาที่มาร่วมมิสซาอย่างมีชีวิตชีวาตั้งแต่หนุ่มสาวจนเฒ่าชราที่วัดหลังนี้
ทำให้วันเวลาที่นี่กับพวกเขาเป็นช่วงเวลาที่มีค่า โดยเฉพาะเวลาถวายมิสซาทุกเช้า เมื่อไปจากที่นี่ สิ่งมีค่าอย่างเดียวที่อยู่ในความทรงจำ
นานที่สุดคือพิธีมิสซาอันสงบศักสิทธิ์ทุกเช้ากับสัตบุรุษเหล่านั้น
เราจะเลือกอะไร ระหว่าง
ทำให้สัตบุรุษคุ้นเคยกับการไม่ต้องมาวัดทุกเช้าด้วยการงดมิสซาบ่อยๆ
เดี๋ยวเขาก็ชินไปเอง หรือ
สอนสัตบุรุษว่ามิสซาสำคัญ พ่อเลือกเอาถวายมิสซากับพี่น้องก่อนแล้วค่อยไปทำสิ่งอื่น
เพื่อสัตบุรุษจะมีค่านิยมเลือกเอามิสซาเป็นของมีค่า ในชีวิตสมดังที่เราพยายามสอนพวกเขา
ลูกขอเลือกเอามิสซา...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)